นายทรงวุฒิ คำนาน
บ้านเลขที่ 29 หมู่ 10 ตำบลป่าแลวหลวง อำเภอสันติสุข จังหวัดน่าน
พื้นที่ในการประกอบอาชีพ 3 ไร่ 2 งาน
ความเป็นมา
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของนายทรงวุฒิ คำนาน ตั้งอยู่บ้านพนาไพร หมู่ที่ 10 ตำบลป่าแลวหลวง อำเอสันติสุข จังหวัดน่าน เดิมนายทรงวุฒิ คำนาน อดีตรับราชการอาสาสมัครรักษาดินแดนที่ 11 อำเภอสันติสุข จังหวัดน่าน ได้เป็นคนใฝ่รู้ศึกษา ได้มาใช้บริการห้องสมุดประชาชนอำเภอสันติสุข อ่านหนังสือเกี่ยวกับอาชีพในเรื่องการทำเกษตรผสมผสาน จึงเป็นจุดเริ่มต้นกระตุ้นความคิดที่จะทำอาชีพเกษตรผสมผสานอย่างจริงจัง ประกอบกับมีพื้นที่ที่จะดำเนินการ จึงได้นำพืชผัก ไม้ผลบางอย่างที่หาได้ในพื้นที่นำไปปลูกในสวนปลายปี พ.ศ. 2552 ได้ลาออกจากราชการ พอปี พ.ศ. 2553 เนื่องจากได้ส่งบุตรเรียนจบ ประกอบกับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสันติสุข จังหวัดน่าน ได้พาไปศึกษาดูงานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่อำเภอเทิง และอำเภอแม่จัน ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ยิ่งทำให้เกิดความคิดที่อยากทำมากขึ้น หลังจากไปดูงานกลับมาได้เริ่มปรับระบบการเกษตรของตนเองเข้าสู่ทฤษฎีใหม่ โดยได้ปลูกพืชล้มลุกและปลูกลิ้นจี่ จำนวน 130 ต้น แต่ต้องเจอสภาพปัญหาการตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย สถานที่ขายไกลอยู่ในตัวอำเภอเวียงสา จังหวัดน่านและอยู่ในช่วงผลผลิตตกต่ำ ซึ่งไม่คุ้มทุนและต้องดูแลเป็นพิเศษมีแต่แมลงมาก่อกวน หลังจากนั้นมีแนวคิดปลูกมะนาว จำนวน 100 ต้น มะนาวเป็นพืชที่ปลุกง่าย บริหารจัดการง่าย ไม่ค่อยมีศัตรูพืชมารบกวน และ พ.ศ. 2554 สหกรณ์การเกษตรอำเภอสันติสุขได้นำพาสมาชิกสหกรณ์ไปศึกษาดูงานการปลูกปาล์มหนึ่งในนั้น มีนายทรงวุฒิ คำนาน ได้ร่วมศึกษาดูงานเลยเกิดความคิดที่จะปลูกปาล์มเพราะ 3 ปี แรกบริษัทรับซื้อปาล์มเป็นผู้ลงทุนให้หมดทุกอย่าง ได้ปลูกปาล์ม จำนวน 88 ต้น และมีบ่อเลี้ยงปลา สุกร ไก่พื้นเมือง เป็ดพันธุ์ไข่ ไก่พันธุ์ไข่ ปลูกไม้ผล พืชผักสวนครัว โดยได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากเอกสาร เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้รู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่จังหวัดน่าน และต่างจังหวัดแล้วนำมาปฏิบัติ เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนการผลิตการเกษตรในสวนของตนเองจนประสบความสำเร็จดังที่หวัง
ประกอบเกษตรกรรมด้านพืช
– มะนาวในบ่อซีเมนต์ จำนวน 100 ต้น ปลูกพ.ศ. 2542 รายได้ขายมะนาวตลอดฤดูกาล 10,000 บาท/เดือน
(ห้ามใส่มูลวัว ควาย เพราะทำให้เกิดโรคแคงเกอร์ มะนาวไม่มีน้ำ)
ข้อดีการปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์
- สามารถบังคับให้มะนาวออกลูกนอกฤดูหรือตลอดทั้งปีได้ง่าย
- ไม่เปลืองแรงงานหรือเกิดค่าใช้จ่ายในการเตรียมแปลงหรือปรับพื้นที่
- ง่ายต่อการดูแล และการให้น้ำมีประสิทธิภาพ
- ป้องกันโรคบางชนิดได้ง่ายจากสภาพดินที่ไม่เหมาะสม
- เหมาะสำหรับการปลูกไว้รับประทานเองหรือเพื่อส่งจำหน่าย
- สามารถใช้เป็นไม้ประดับได้อีกทาง
ปาล์ม จำนวน 88 ต้น ปลูกพ.ศ. 2554 เก็บเกี่ยว ทุกวันที่ 1 และวันที่ 16 ของทุกเดือน รายได้ 5,000-6,000 บาท/เดือน
(วิธีเพิ่มผลผลิตต้นปาล์มชอบกินอาหารเสริม มูลสัตว์ (ใส่ได้ตลอดปี) ปุ๋ยเคมี ใส่เดือน พ.ค.-มิ.ย.ของทุกปี ช่วยฤดูฝน)
ประกอบเกษตรกรรมด้านสัตว์
หมูแม่พันธุ์ หมูขุน พ.ศ. 2537 รายได้ 17,500/เดือน
เลี้ยงตามฤดูกาล ภูมิต้านทานโรค โตไว เนื้อแดงมีคุณภาพ อาหารที่เหมาะตามฤดูกาล
ฤดูร้อน = หมูพันธุ์ดูร็อก , มูพันธุ์ลาร์จไวต์, หมูพันธุ์แลนด์เรซ
ฤดูหนาว = พันธุ์เปียแตรงผสมหมูพันธุ์เพียวเทียน
ฤดูฝน = หมูพันธุ์ดูร็อกผสมพันธุ์ลาร์จไวท์
(สูตรอาหาร = อาหารสำเร็จรูป + ผักต้ม (คลอดลูกง่าย) +สมุนไพรพื้นบ้าน+รำ)
ไก่พันธุ์ไข่ พ.ศ. 2552 รายได้ขายไข่ไก่ 300/วัน 9,000 บาท/เดือน
เลี้ยงไก่พื้นเมือง เป็ดและ ไก่งวง ในพื้นที่เดียวกัน อย่างเกื้อกูลกัน
สระเลี้ยงปลา จำนวน 2 บ่อ ปลาขาย 1 ครั้ง/ปี
แก๊สชีวภาพ
นำมูลสุกรหมักเป็นแก๊สชีวภาพไว้ใช้ในครัวเรือน ลดต้นทุนในการผลิตและครัวเรือน
เลี้ยงจิ้งหรีดไว้บริโภคเหลือจึงนำไปขาย
เผาถ่านใช้เอง (เตาเผาถ่านโดยใช้ดิน) และได้น้ำควันไม้จากการเผาถ่านมาใช้พ่นผักสวนครัวแทนสารเคมี
องค์ความรู้ด้านพืช
วิธีการผลิตฮอร์โมนสกัดมูลสุกร
สิ่งที่ต้องเตรียม
- มูลสุกรตากแห้ง จำนวน 1 กิโลกรัม
- น้ำสะอาด จำนวน 10 ลิตร
- ถังพลาสติก 1 ใบ
- ตาข่ายพลาสติกเย็บเป็นถุงสำหรับห่อ
วิธีการ นำมูลสุกรแห้งบรรจุตาข่ายไนลอน(มุ้งเขียว)จำนวน 1 กิโลกรัม แช่น้ำ 10 ลิตร (ถ้าต้องการปริมาณที่มากขึ้นใช้อัตราส่วน 1 ต่อ 10) แล้วหมักทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง แล้วยกถุงบรรจุมูลสุกรออกจากถัง(นำไปใส่ต้นไม้เป็นปุ๋ยบำรุงดินได้) จะได้น้ำสกัดมูลสุกรที่ใส พร้อมนำไปใช้ได้ ปริมาณประมาณ 8 ลิตร(หัวเชื้อ) สามารถนำไปขยายใช้ได้ หรือจะหมักต่อไปอีกก็เก็บได้นาน ยิ่งเก็บนานน้ำสกัดที่ได้จะยิ่งใสขึ้น ธาตุอาหารและประโยชน์มากขึ้น และกลิ่นลดลง
วิธีการใช้ นำน้ำสกัดมูลสุกรไปมีทั้งธาตุอาหารและจุลินทรีย์เจือจางด้วยน้ำ 1 ต่อ 10 ถึง 1 ต่อ 20 ลิตร ซึ่งจะได้น้ำสกัดพร้อมใช้ปริมาณ 80-160 ลิตร ใช้ได้ทันที ใช้ทั้งรดต้นพืช หรือฉีดพ่นทางใบก็ได้ นอกจากนี้ยังใช้แช่เมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อให้งอกเร็วขึ้นแข่งกับวัชพืชได้ นอกจากนี้ยังใช้กับพืชผัก พืชสวน พืชไร่ ไม้ดอกและไม้ผลได้ด้วย
การตัดแต่งกิ่งต้นไม้
เหมาะสมตัดแต่งกิ่งข้างแรม 1 ค่ำ- 8 ค่ำ (เพราะพืชอยู่ในช่วงระหว่างคายน้ำแผลที่ตัดแต่งจะหายเร็ว
การขยายพันธุ์ ตอน เสียบ ทาบ
ควรทำข้างแรม 1- ค่ำ-14 ค่ำ
การใส่ปุ๋ยทางดิน
ข้างขึ้น 1 ค่ำ – 8 ค่ำ (พืชกำลังดูดน้ำ ดูดอาหาร)
การใส่ปุ๋ยทางใบ
ข้างขึ้น 9 ค่ำ – 15 ค่ำ (พืชเริ่มอิ่มตัวจากการสะสมอาหาร)
การกำจัดวัชพืช
ทำในช่วง ข้างขึ้น 9 ค่ำ – 15 ค่ำ (ตัดวงจรอาหารที่ไปเลี้ยงวัชพืช)
ประกอบเกษตรกรรม
- ด้านพืช
– ปลูกผักสวนครัว
– มะนาวจำนวน 100 ต้น
– พริก
– ปาล์มน้ำมัน จำนวน 88 ต้น
- ด้านสัตว์
– เลี้ยงหมูขุน, หมูแม่พันธุ์
– เลี้ยงไก่พื้นเมือง, ไก่พันธุ์ไข่ ,ไก่งวง, เป็ดเทศ,
– เลี้ยงกบ
– เลี้ยงจิ้งหรีด
- ประมง
– เลี้ยงปลา 2 บ่อ
ประกอบอาชีพทำเกษตร
- การเลี้ยงสุกร ปี 2552
- ปลูกปาล์มน้ำมัน ปี 2554
- เลี้ยงไก่ ปี 2552
- เลี้ยงปลา ปี 2552
- ผักสวนครัว ปี 2531
- เลี้ยงกบ ปี 2535