การจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม ที่มีธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ก่อให้เกิดการพัฒนาเกษตรกรรมเป็นไปอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ สร้างคุณค่าและประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย ดังนี้

1. หลักนิติธรรม (Rule of law) การจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมของประเทศไทยต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แผนมีความถูกต้องตามกฎหมายมีความชอบธรรมและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงตามกรอบกฎหมาย ลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางกฎหมายในอนาคต และทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เชื่อมั่นว่าแผนแม่บทถูกต้องและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
2. หลักการมีส่วนร่วม (Participation) การจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมของประเทศไทย อาศัยกระบวนการมีส่วนร่วมในระดับประเทศ และระดับพื้นที่ครอบคลุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกจังหวัด ในการจัดทำแผน
“ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบและได้รับประโยชน์”
3. หลักความโปร่งใส (Transparency) การจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมของประเทศไทย มีกระบวนการที่เปิดเผยในการให้และรับข้อมูลข่าวสารจากเกษตรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
4. หลักความรับผิดชอบ (Accountability) การจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมของประเทศไทย มีกระบวนการและกลไกที่ สามารถตรวจสอบได้ ในการกำหนดทิศทาง แนวทาง วัตถุประสงค์ ตัวชี้วัดผลงานหลัก ที่มีลักษณะเหมาะสมในการวัดผล และตรวจสอบได้
5. หลักความคุ้มค่า (Value for money) การจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมของประเทศไทย คำนึงถึงการใช้ทรัพยากร
อย่างประหยัด มีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประสิทธิผล เพื่อให้การลงทุนและการใช้ทรัพยากรในการพัฒนาเกษตรกรรมมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ส่งเสริมการดำเนินการที่มุ่งเน้นผลงานเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
6. หลักคุณธรรม (Ethics) การจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมของประเทศไทย มีความมุ่งหมายให้เกิดความเสมอภาค และเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน
**************************************************************